Home / ข่าวประชาสัมพันธ์ / ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 14/2560

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 14/2560

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 14/2560 เมื่อวันพุธที่ 20 กันยายน 2560 ณ ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดย นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุม และนายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการ ก.ค.ศ. ในฐานะเลขานุการ ก.ค.ศ. ร่วมประชุม ซึ่งได้มีการพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่สำคัญ ดังนี้

• เห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ศึกษานิเทศก์สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

  • ผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือกต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
         – เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัด สพฐ.
         – มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษา หรือทางอื่นที่ ก.ค.ศ. กำหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งศึกษานิเทศก์
         – ดำรงตำแหน่งครูมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปี สำหรับผู้มีวุฒิปริญญาตรี และ 2 ปี สำหรับผู้มีวุฒิปริญญาโท ขึ้นไป หรือ
         – ดำรงตำแหน่งอื่นที่ ก.ค.ศ. เทียบเท่า ได้แก่ เคยดำรงตำแหน่งอาจารย์ 1 ไม่น้อยกว่า 6 ปี สำหรับผู้มีวุฒิปริญญาตรี และ 4 ปี สำหรับผู้มีวุฒิปริญญาโทขึ้นไป หรือ เคยดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอาจารย์ 2 รับเงินเดือนในระดับ 6
         – มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพบุคลากรทางการศึกษาอื่น (ศึกษานิเทศก์)

  • ผู้สมัครต้องเลือกสมัครเข้ารับการคัดเลือกในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา หรือในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เพียงแห่งเดียวเท่านั้น และต้องรับรองตนเองด้วยว่าในวันบรรจุและแต่งตั้งตนเองไม่ติดเงื่อนไขอื่นใดที่ ก.ค.ศ. กำหนด

  • ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดำเนินการในการกำหนดวันและเวลาในการคัดเลือก ดำเนินการและบริหารจัดการเกี่ยวกับการออกข้อสอบภาค ก และกำหนดตัวชี้วัด องค์ประกอบการประเมินและคะแนนการประเมิน ภาค ข ตามหลักสูตรที่ ก.ค.ศ. กำหนด

  • ให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) เป็นผู้ดำเนินการคัดเลือก

  • เกณฑ์การตัดสิน ผู้ได้รับการคัดเลือกต้องได้คะแนนภาค ก และภาค ข ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 และต้องได้คะแนนรวมทั้งสองภาค ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60

  • ให้ศึกษาธิการจังหวัดเป็นผู้สั่งบรรจุและแต่งตั้ง โดยความเห็นชอบของ กศจ. โดยจะบรรจุและแต่งตั้งผู้ที่ได้รับการคัดเลือกที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามมาตรฐานตำแหน่งและผ่านการพัฒนาฯ เท่านั้น

  • ขึ้นบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือก 1 ปี นับแต่วันประกาศขึ้นบัญชี


• อนุมัติกำหนดตำแหน่งอื่นที่ ก.ค.ศ. เทียบเท่า เพื่อกำหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง รองศึกษาธิการจังหวัด ได้แก่

ตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากร
ทางการศึกษา

ตำแหน่งอื่นที่ ก.ค.ศ. เทียบเท่า

1.1 ประเภทอำนวยการ ระดับต้น

– ตำแหน่งที่เทียบเท่ากับตำแหน่งประเภทอำนวยการ ระดับต้น ได้แก่
     1) ผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะไม่ต่ำกว่าวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ
     2) ผู้อำนวยการ สช.อำเภอ วิทยฐานะไม่ต่ำกว่าวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ
     3) ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งประเภทอำนวยการ ระดับต้น
     4) ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งที่ ก.พ. เทียบเท่ากับประเภทอำนวยการ ระดับต้น

1.2 รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา/รองผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัด/กทม. /รองผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด

– ไม่มีตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่จะกำหนดให้เทียบเท่ากับตำแหน่งต่าง ๆ ดังกล่าว

1.3 ประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการพิเศษ

– ตำแหน่งที่เทียบเท่ากับตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการพิเศษ ได้แก่
     1) ครู วิทยฐานะไม่ต่ำกว่าวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ
     2) ศึกษานิเทศก์ วิทยฐานะไม่ต่ำกว่าวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ
     3) รองผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะไม่ต่ำกว่าวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ
     4) ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการพิเศษ

1.4 ประเภททั่วไป ระดับอาวุโส

-ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับอาวุโส


• เลือกอนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารงานบุคคล ด้านกฎหมาย ด้านการศึกษา และด้านการเงินการคลัง ด้านละ 1 คน  อนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 3 คน เพื่อเสนอแต่งตั้งเป็นอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ดังนี้

     – อนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารงานบุคคล ด้านกฎหมาย ด้านการศึกษา และด้านการเงินการคลัง ได้แก่ นายวิวัฒน์ แหวนหล่อ, นายกิตติรัตน์ มังคละคีรี, นายวัชรินทร์ จำปี และนางผานิตย์ มีสุนทร
     – อนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้แก่ ว่าที่ร้อยตรี อานนท์ สุขภาคกิจ, ว่าที่ร้อยตรี สมปอง วิมาโร และนายสมคิด เจ้ยชุม

นอกจากนี้ ได้รับทราบการเสนออนุกรรมการข้าราชการในสังกัดที่ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร หรือประเภทวิชาการ จำนวน 3 คน และอนุกรรมการผู้แทนสำนักงาน ก.ค.ศ. ซึ่งได้แก่ นายประเสริฐ บุญเรือง รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ, นายกฤตชัย  อรุณรัตน์ เลขาธิการ กศน., นายพะโยม ชิณวงศ์ เลขาธิการ กช. และนายพินิจศักดิ์  สุวรรณรังค์ เลขาธิการ ก.ค.ศ.


• เลือกอนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารงานบุคคล ด้านกฎหมาย ด้านการศึกษา และด้านการเงินการคลัง ด้านละ 1 คน  อนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 3 คน เพื่อเสนอแต่งตั้งเป็นอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ดังนี้

– อนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารงานบุคคล ด้านกฎหมาย ด้านการศึกษา และด้านการเงินการคลัง ได้แก่ นายนนทพงศ์  ยอดทอง, นายทบทวน ชำนาญค้า, นายอดิพล ไผ่แสวง และนายเริงจิตร์ ลาภมีสม
– อนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้แก่ นายบุญลือ ทองเกตแก้ว, ว่าที่ร้อยตรี ชอบ สมบุญเพ็ญ และนางผ่องพรรณ จรัสจินดา

นอกจากนี้ ได้รับทราบการเสนออนุกรรมการข้าราชการในสังกัดที่ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร หรือประเภทวิชาการ จำนวน 3 คน และอนุกรรมการผู้แทนสำนักงาน ก.ค.ศ. ได้แก่ นายบุญส่ง จำปาโพธิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา, นายสาโรจน์ ขอจ่วนเตี๋ยว ผอ.วิทยาลัย รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านมาตรฐานอาชีวศึกษาช่างอุตสาหกรรม, นายพรรษา ฉายกล้า ตำแหน่งครู วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ และนายยศพล เวณุโกเศศ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพัฒนาระบบบริหารงานบุคคล สำนักงาน ก.ค.ศ.


• อนุมัติจัดสรรคืนอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ.2560 จำนวน 24,163 อัตรา ให้กับส่วนราชการต่าง ๆ ดังนี้ 

ที่

ส่วนราชการ

ตำแหน่ง

จำนวน(อัตรา)

1.

สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สถาบันวิทยาลัยชุมชน)

ครูผู้ช่วย

3

รวม

3

2.

สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ

เจ้าหน้าที่บริหารการศึกษา

2

ศึกษานิเทศก์

6

บุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2)

16

รวม

24

3.

สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย

ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัด

7

รองผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัด

2

ผู้อำนวยการสถานศึกษา

45

รองผู้อำนวยการสถานศึกษา

1

ครูผู้ช่วย

42

ศึกษานิเทศก์

7

บุคลากรทางการศึกษาศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2)

3

รวม

107

4.

สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

ผู้อำนวยการสถานศึกษา

44

รองผู้อำนวยการสถานศึกษา

91

ครูผู้ช่วย

669

รวม

804

5.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

22

รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

56

ผู้อำนวยการสถานศึกษา

2,069

รองผู้อำนวยการสถานศึกษา

475

ครูผู้ช่วย

19,962

ศึกษานิเทศก์

249

บุคลากรทางการศึกษาศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2)

313

รวม

23,146

6.

สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์

รองผู้อำนวยการสถานศึกษา

2

อาจารย์

3

ครูผู้ช่วย

31

บุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2)

1

รวม

37

7.

สถาบันการพลศึกษา

อาจารย์

38

ครูผู้ช่วย

1

บุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2)

3

รวม

42

รวมทั้งสิ้น

24,163

ทั้งนี้ การอนุมัติจัดสรรคืนอัตราว่างของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จากผลการเกษียณอายุราชการ ให้ส่วนราชการดำเนินการเกลี่ยอัตรากำลังที่ได้รับการอนุมัติไปกำหนดตำแหน่งในหน่วยงานการศึกษาตามเงื่อนไขที่ คปร.กำหนดโดยเคร่งครัด ตำแหน่งที่กำหนดต้องมีจำนวนและประเภทตำแหน่งตามที่ ก.ค.ศ.กำหนด และให้กำหนดตำแหน่งในหน่วยงานการศึกษาที่มีอัตรากำลังไม่เกินกรอบอัตรากำลังหรือเกณฑ์มาตรฐานอัตรากำลังที่ ก.ค.ศ.กำหนด โดยให้ใช้อัตรากำลังได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560

ทั้งนี้ ให้สำนักงาน กศน. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กันอัตราตำแหน่งครูผู้ช่วยที่ได้รับจัดสรรคืน เพื่อรองรับการบรรจุบุคคลตามโครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น ตามมติ ครม.และที่ประชุมกระทรวงศึกษาธิการ ไม่เกินร้อยละ 25 ของอัตราตำแหน่งข้าราชการครูที่เกษียณอายุราชการในรอบ 10 ปี (ปี พ.ศ.2559-2568) โดยให้เป็นไปตามข้อตกลงของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษากับส่วนราชการนั้น ๆ และมอบหลักการให้สำนักงาน ก.ค.ศ. เสนอเรื่องการขอยกเว้นเงื่อนไขการจัดสรรคืนอัตราข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจากผลการเกษียณอายุราชการให้กับสถานศึกษาที่มีนักเรียนน้อยกว่า 250 คน ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ปกติ สังกัด สพฐ. เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 และเสนอ ก.ค.ศ. และ คปร.เพื่อพิจารณาต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้อนุมัติจัดสรรคืนอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน จำนวน 1 อัตรา ได้แก่ ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนอำเภอ


• เห็นชอบให้เสนอคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา ยกเว้นเงื่อนไขการจัดสรรคืนอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการครู เฉพาะสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 คืนให้กับโรงเรียนประถมศึกษาและโรงเรียนประถมศึกษาขยายโอกาสที่มีจำนวนนักเรียนน้อยกว่า 250 คน ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ปกติแต่ประสบปัญหาการขาดแคลนอัตรากำลังครู จาก 41 เขตพื้นที่การศึกษา จำนวนทั้งสิ้น 1,008 แห่ง จำนวน 1,206 อัตรา



• เห็นชอบกำหนดแนวปฏิบัติในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องสำหรับข้าราชการครูที่ไปช่วยปฏิบัติหน้าที่สอนในโรงเรียนวังไกลกังวล จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้แก่

  • แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน ไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเดิมในโรงเรียนหัวหิน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 10 เพื่อไปช่วยปฏิบัติหน้าที่สอนในโรงเรียนวังไกลกังวล

  • แนวปฏิบัติในการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย ไปบรรจุและแต่งตั้งในโรงเรียนหัวหิน สังกัด สพม. เขต 10 เพื่อไปช่วยปฏิบัติหน้าที่สอนในโรงเรียนวังไกลกังวล

  • แนวปฏิบัติในการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มสำหรับครูผู้ช่วย โรงเรียนหัวหิน สังกัด สพม. เขต 10 เพื่อไปช่วยปฏิบัติหน้าที่สอนในโรงเรียนวังไกลกังวล

  • แนวปฏิบัติการเบิกจ่ายเงินวิทยฐานะ ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนหัวหิน สังกัด สพม. เขต 10 เพื่อไปช่วยปฏิบัติหน้าที่สอนในโรงเรียนวังไกลกังวล

  • แนวปฏิบัติการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่ไปช่วยราชการในสถานศึกษาตามโครงการพระราชดำริ มีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ (สายงานการสอน)

ทั้งนี้ เห็นควรกำหนดเงื่อนไขในการใช้ตำแหน่งว่าง ดังนี้

  • ให้พิจารณากำหนดสัดส่วนเพื่อใช้ในการรับย้ายและการคัดเลือก ได้ตามความเหมาะสมและความจำเป็นของสถานศึกษา

  •  การกำหนดวิชาเอกเพื่อใช้ในการรับย้ายและการคัดเลือก ให้พิจารณาตามความเหมาะสมและความจำเป็นของสถานศึกษา

  •  ให้ใช้ตำแหน่งว่างพิจารณารับย้ายก่อน หากมีตำแหน่งว่างเหลือจากการรับย้าย ให้นำตำแหน่งดังกล่าวไปใช้ในการคัดเลือกได้

  •  ผู้ได้รับการย้ายและผู้ที่ได้รับการคัดเลือกและรับการบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครูผู้ช่วย โรงเรียนหัวหิน สังกัด สพม.เขต 10 เพื่อไปช่วยปฏิบัติหน้าที่สอนในโรงเรียนวังไกลกังวล จากจะขอไปดำรงตำแหน่งนอกสังกัดเดิม ต้องมีระยะเวลาปฏิบัติหน้าที่สอนอยู่ในโรงเรียนวังไกลกังวลเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี

  •  ให้ใช้แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการย้าย ฯ นี้ เฉพาะการย้ายครั้งที่ 2 ปี พ.ศ. 2560 เท่านั้น


• เห็นชอบให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ดำรงตำแหน่งครูผู้ช่วยหรือตำแหน่งครู ที่มีวิทยฐานะ เข้ารับการพัฒนาในหลักสูตรที่สถาบันคุรุพัฒนาให้การรับรอง จำนวน 1,455 หลักสูตร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 ใช้ได้กับทุกวิทยฐานะ ในช่วงเปลี่ยนผ่าน จนกว่า ก.ค.ศ. จะกำหนดเป็นอย่างอื่น

 

——————–

ขอบคุณภาพและข่าว จากเว็บไชต์กระทรวงศึกษาธิการ