สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ
(17 กันยายน 2559) นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารจาก สพฐ. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสนามสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย ครั้งที่ 1 ปี พ.ศ. 2559 ส่วนกลาง ณ โรงเรียน สันติราษฎร์วิทยาลัย เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้กำหนดให้มีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย ในปีนี้จัดสอบระหว่างวันที่ 17-19 กันยายน 2559 โดยแบ่งเป็น 3 ภาค คือ วันเสาร์ที่ 17 กันยายน สอบภาค ก ความรอบรู้ ความสามารถทั่วไป และความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับคุณธรรม จริยธรรมและ อุดมการณ์ของความเป็นครู มาตรฐานวิชาชีพทางการศึกษา และมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน สอบภาค ข ความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง เกี่ยวกับวิชาการศึกษา และวันจันทร์ที่ 19 กันยายน สอบภาค ค ความเหมาะสมกับตำแหน่งและวิชาชีพ ซึ่งจะใช้วิธีประเมินโดยการสอบสัมภาษณ์ เพื่อคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่งครูผู้ช่วยในวิชาเอกต่าง ๆ สำหรับส่วนกลางในเขตกรุงเทพมหานคร มีสนามสอบ 3 โรงเรียน คือ โรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และโรงเรียนสตรีวิทยา 2 มีผู้สมัครสอบทั้งหมด 4,580 คน มีตำแหน่งว่าง 264 ตำแหน่ง จาก 16 วิชาเอก นอกจากนี้ยังมีส่วนการศึกษาพิเศษจัดสอบที่โรงเรียนพิบูลประชาสรรค์ มีผู้สมัครสอบจำนวน 812 คน มีตำแหน่งว่าง 104 ตำแหน่ง จาก 22 วิชาเอก ขณะที่ภาพรวมทั้งประเทศ มีผู้สมัครสอบทั้งสิ้น 134,818 คน มีตำแหน่งว่าง 2,561 ตำแหน่ง จาก 55 วิชาเอก ซึ่งได้จัดสนามสอบแข่งขันในโรงเรียนสังกัด สพฐ. กระจายกันไปทั้ง 18 เขตตรวจราชการทั่วประเทศ โดย กศจ.ที่มีจำนวนผู้สมัครมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กศจ.บุรีรัมย์ 7,273 คน กศจ.ชลบุรี 6,623 คน กศจ.อำนาจเจริญ 6,368 คน กศจ.นครศรีธรรมราช 4,795 คน และ กศจ.กาญจนบุรี 4,721 คน ซึ่งในการสอบแข่งขันฯปีนี้ วิชาเอกที่มีผู้สมัครสอบมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่ 1. ปฐมวัย/อนุบาลศึกษา 2. คอมพิวเตอร์ 3. สังคมศึกษา 4. ภาษาอังกฤษ 5. คณิตศาสตร์
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวเพิ่มเติมว่า การสอบแข่งขันครั้งนี้ สพฐ. ได้มีการกำกับติดตามการดำเนินการสอบแข่งขันให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม ถูกต้องตามหลักเกณฑ์วิธีการที่กำหนด ให้มีการเปิดสอบแข่งขันเป็นไปในแนวทางเดียวกัน โดย สพฐ. ได้สอดส่อง กำกับ ดูแลการปฏิบัติทุกขั้นตอนการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด และเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษเกี่ยวกับการป้องกันการทุจริต รวมทั้งป้องกันมิให้แสวงหาผลประโยชน์ในการคัดเลือก โดยให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอาจจะพิจารณาสร้างความเข้าใจและปฏิบัติตามระเบียบที่เกี่ยวกับการคัดเลือกอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะกรรมการกำกับการสอบควรกำชับให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง รอบคอบ รัดกุม เนื่องจากเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการตรวจสอบการทุจริตการคัดเลือก ห้ามมิให้ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษารอง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และบุคลากรในสังกัดกระทำการใดๆ ที่มีเจตนาเป็นการกวดวิชา จัดทำเอกสาร จำหน่าย แจกหรือกระบวนการอื่นใดที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เข้ารับการคัดเลือก โดยให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากำหนดบุคคลในทางลับเพื่อตรวจสอบในกรณีดังกล่าวด้วย และห้ามมิให้แต่งตั้งบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการจัดกวดวิชาหรือสถานศึกษา
ที่จัดกวดวิชาเป็นกรรมการที่เกี่ยวข้องเข้ารับการคัดเลือกเด็ดขาด พร้อมกันนี้ สพฐ. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามสถานการณ์การสอบแข่งขัน เพื่อสอดส่อง ดูแลความเคลื่อนไหวและสังเกตการณ์ พร้อมรายงานเหตุการณ์ต่างๆ หากพบความเสี่ยง ปัญหาหรืออุปสรรคให้ เลขาธิการ กพฐ. ทราบ และได้กำชับให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ กำกับ ดูแล แนะนำให้คำปรึกษาแก่เจ้าหน้าที่ดำเนินการสอบอย่างเคร่งครัดและรายงานให้คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นระยะ ๆ ตลอดการดำเนินการสอบแข่งขัน และสำหรับการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสนามสอบครูผู้ช่วย ณ โรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย ถือว่ามีความพร้อมในการจัดสนามสอบทั้งด้านสถานที่ บุคลากร และสะดวกในการเดินทาง โดยในปีนี้ได้รองรับผู้มีสิทธิสอบจำนวน 1,303 คน จาก 3 วิชาเอก ได้แก่ ภาษาไทย อุตสาหกรรมศิลป์ และการศึกษาพิเศษ ซึ่งมีการจัดการสอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่พบทุจริตแต่อย่างใด เลขาธิการ กพฐ. กล่าว
ขอบคุณภาพและข่าว จากเว็บไชต์ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน