Home / ข่าวประชาสัมพันธ์ / รมว.ศธ.รับฟังปัญหาโรงเรียน ICU ณ โรงเรียนเต่างอยพัฒนศึกษา จ.สกลนคร

รมว.ศธ.รับฟังปัญหาโรงเรียน ICU ณ โรงเรียนเต่างอยพัฒนศึกษา จ.สกลนคร

948364

รมว.ศธ.รับฟังปัญหาโรงเรียน ICU ณ โรงเรียนเต่างอยพัฒนศึกษา จ.สกลนคร

***นายแพทย์ ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) พร้อมด้วยนายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นายบุญรักษ์ ยอดเพชร รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ลงพื้นที่รับฟังปัญหาของโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ "โรงเรียน
ที่ต้องการความช่วยเหลือและพัฒนาเป็นพิเศษอย่างเร่งด่วน" หรือโรงเรียน ICU (Intensive Care Unit) เมื่อวันศุกร์ที่ 10 มีนาคม 2560 ณ โรงเรียนเต่างอยพัฒนศึกษา จ.สกลนครโดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ผู้แทนฝ่ายความมั่นคง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา นายประเสริฐ ปัตโชติชัย ผู้อำนวยการโรงเรียนเต่างอยพัฒนศึกษา ให้การต้อนรับและร่วมประชุมหารือร่วมกัน
รมว.ศธ. กล่าวว่า โรงเรียนเต่างอยพัฒนศึกษา จ.สกลนคร สมัครเข้าร่วมโครงการโรงเรียน ICU เนื่องจากประสบปัญหาในหลาย ๆ ด้าน เช่น 1. ด้านนักเรียน พบว่า นักเรียนขาดแรงจูงใจ ขาดความกระตือรือร้นในการเรียน ขาดทักษะการคิดวิเคราะห์ มีพื้นฐานความรู้ที่แตกต่างกัน ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น มีจิตสาธารณะต่ำนักเรียนมาจากครอบครัวที่ขาดความพร้อม ขาดความเอาใจใส่ ครอบครัวที่มีปัญหา นักเรียนจบหลักสูตรการศึกษา ไม่มีทักษะอาชีพ นักเรียนมีปัญหาด้านการอ่าน เขียนภาษาไทย 2.ด้านครู พบว่า ครูไม่ได้ดำเนินการตามรูปแบบ PLC ครูไม่ได้จัดกระบวนการเรียนรู้แบบ Active Learning ขาดครูและบุคลากรที่เป็นเจ้าของภาษา เช่น ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ ภาษาเวียดนาม 3. ด้านหลักสูตร พบว่า หลักสูตรไม่สอดคล้องต่อบริบทชุมชนในการประกอบอาชีพ 4. ด้านเทคโนโลยี พบว่าทางโรงเรียนมีอุปกรณ์ไม่ทันสมัยและไม่มีประสิทธิภาพ ขาดห้องปฏิบัติการด้านภาษา (เช่น อังกฤษ จีน เวียดนาม) ขาดห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ครบวงจร ขาดสื่อและอุปกรณ์ในห้องปฏิบัติการ ต่าง ๆ เช่น ห้องเคมี ห้องฟิสิกส์ ห้องชีววิทยา ห้องคณิตศาสตร์ (กระดานอัจฉริยะ) ห้องปฏิบัติการทางภาษา เป็นต้น ซึ่งจากการวิเคราะห์ปัญหาดังกล่าว ถือเป็นปัญหาที่ไม่จำเป็นต้องมีการแก้ไขปัญหาอย่างฉุกเฉินเร่งด่วนตามโครงการโรงเรียนไอซียู จึงไม่นับเป็นโรงเรียนไอซียู แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้จะไม่ใช่โรงเรียนไอซียูแท้ แต่ก็จะได้รับการพัฒนา และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เร็วกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาครู ให้ตอบโจทย์การบูรณาการการจัดการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการคิดสู่ผู้เรียน ใน 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ส่วนด้านหลักสูตร ก็จะแก้ไขโดยการจัดการศึกษาเพื่อสร้างอาชีพและมีงานทำ โดยใช้กระบวนการการเรียนการสอนตามหลักสูตรมากยิ่งขึ้นภายใต้การดำเนินการเต่างอยโมเดล 4.0 โดยการ MOU จับมือกับหน่วยงานภาคีเรือข่ายที่เกี่ยวข้องร่วมกันยกระดับคุณภาพการศึกษาโดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
นอกจากนี้ รมว.ศธ. ได้กล่าวถึงภาพรวมการแก้ไขปัญหาโรงเรียนไอซียูให้เป็นโรงเรียนที่มีคุณภาพนั้นว่าจะต้องมีการกำหนดแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน พร้อมทั้งจะมีการจัดสรรทรัพยากรในด้านต่าง ๆ ให้เพียงพอ โดยใช้แนวทางในการพัฒนาครูที่จะต้องมีการขับเคลื่อนมาจากปัจจัยภายใน และจะต้องคำนึงถึงปัจจัยภายนอกด้วย ซึ่งต่อจากนี้จะมีการจัดตั้งสถาบันคุรุพัฒนา ของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาขึ้น ที่จะทำหน้าที่ในการอบรมด้านวิชาการให้นักศึกษาครูจบใหม่โดยหลักสูตรการอบรมเพื่อการพัฒนาครู ที่ผ่านการคัดเลือกโดยสถาบันคุรุศึกษา เพื่อเป็นการกำหนดทิศทาง แนวทางการเป็นครูที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งแยกส่วนกับสำนักพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สพฐ. ที่จะทำหน้าที่อบรมพัฒนาให้แก่ผู้ที่เป็นครูสังกัด สพฐ. อยู่แล้ว ด้วยการวางแนวทางปฏิรูปครูครบวงจร เชื่อมการพัฒนาครูกับวิทยฐานะ โดยวัดจากชั่วโมงการสอน ส่วนงบพัฒนาครูจะใช้เป็นระบบคูปอง 10,000 บาทต่อคนต่อปี รวมงบประมาณกว่า 4 พันล้านบาท เพื่อเชื่อมโยงกับการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning พร้อมทั้งส่งเสริมให้มีการอบรม PLC (Professional Learning Community) หรือ "ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ" ให้กับครู และผู้บริหารสถานศึกษาทั่วประเทศ ด้วยการนำคนมาอยู่รวมกัน ให้เกิดการเรียนรู้ และแบ่งปันความรู้กันระหว่างผู้เข้าร่วมอบรม จนกระทั่งเกิดการสะท้อนความคิดในด้านต่าง ๆ ที่จะเป็นแนวทางการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
ซึ่งขณะนี้ สามารถสรุปจำนวนโรงเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการโรงเรียนไอซียู ที่จะต้องแก้ไขปัญหาเร่งด่วนฉุกเฉินประมาณ 2,252โรง และรองลงมาคือจะต้องมีการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนประมาณ 1,954 โรงและโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการแต่ถือว่าไม่มีความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน แต่ก็จะได้รับการแก้ไขปัญหาเร็วกว่าปกติ อีกประมาณ 850 โรง ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการก็จะเข้ามาแก้ไขและให้ความช่วยเหลือ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและยกระดับคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ต่อไป
นอกจากนี้ รมว.ศธ. ได้เดินทางไปยังหอประชุมมหาวชิราลงกรณ์ มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร เพื่อเป็นประธานรับฟังผลงานการสร้างเด็กรุ่นใหม่เป็นคนดี ชมผลงานของชมรมส่งเสริมคนดีเมืองสกล และการแสดงของเด็กรุ่นใหม่เป็นคนดีหมู่บ้านห้วยหีบบ้านนาสีนวล อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร พร้อมรับฟังการ นำเสนอผลงานของชมรมส่งเสริมคนดีเมืองสกลตามแผนงานการสร้างเด็กรุ่นใหม่เป็นคนดี โดย รมว.ศธ. กล่าวทิ้งท้ายว่า การที่ชุมชนเข้มแข็ง ความสัมพันธ์ผู้คนในสังคมดี ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวสกลนครที่สามารถใช้เป็นบทเรียนในการเรียนรู้สำหรับที่อื่น ๆ ได้
ทิพวรรณ ข่าว
ดูภาพกิจกรรมทั้งหมด
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.1255659944530260.1073742496.10…