ท
รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยกับสื่อมวลชนภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการ ร่างแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2560-2574 ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยได้มอบกระทรวงศึกษาธิการรับข้อสังเกตเพื่อไปปรับแก้ในรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น ความต้องการกำลังคนในปัจจุบันจนถึง 5 ปีข้างหน้า ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อการวางแผนผลิตคนให้มีความชัดเจน และให้กระทรวงศึกษาธิการเตรียมจัดทำแผนรองรับการผลิตคนตามความต้องการของประเทศให้ชัดเจน ดังนั้น เมื่อ
ที่ประชุมยังได้รับทราบรายงาน ความก้าวหน้าการปฏิรูปการศึกษาในภาพรวม ดังนี้
-
การแก้ไขกฎหมายด้านการศึกษา ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ได้มีการแก้ไขหลักเกณฑ์และกฎหมายต่าง ๆ ของหน่วยงานในสังกัด เพื่อให้งานของกระทรวงศึกษาธิการขับเคลื่อนต่อไปได้ ได้แก่ หลักเกณฑ์และวิธีการต่าง ๆ เกี่ยวกับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) 21 เรื่อง, สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา 8 เรื่อง, สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) 19 เรื่อง เป็นต้น
-
การใช้คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตลอดระยะเวลา 2 ปี กระทรวงศึกษาธิการใช้คำสั่ง คสช.ในงานด้านการศึกษา จำนวน 19 ครั้ง และในอนาคตอาจจะขอใช้คำสั่งนี้เพิ่มอีก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการ อาทิ การกำหนดตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการเพิ่มจำนวน 6 ตำแหน่ง โดยเกลี่ยอัตรากำลังตำแหน่งที่ปรึกษาระดับผู้ทรงคุณวุฒิ หรือระดับ 10 ของทุกส่วนราชการของกระทรวงศึกษาธิการ มาใช้เป็นฐาน เพื่อให้มีผู้ตรวจราชการครบ 18 ตำแหน่ง ที่จะได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการ ปฏิบัติหน้าที่ศึกษาธิการภาค (ศธภ.) ได้ ซึ่งเดิมได้หารือกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) แล้ว แต่กฎหมายไม่เอื้อให้ทำ จึงจำเป็นต้องใช้มาตรา 44 นอกจากนี้จะใช้สำหรับการตั้งคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (
อ.ก.ค.ศ. สพฐ.) และยุบรวมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) จากเดิมที่มี อ.ก.พ.ทั้ง 5 องค์กรหลัก ให้เหลือ อ.ก.พ.ศธ. เพียงคณะเดียว
นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการได้รายงานให้ที่ประชุมทราบเกี่ยวกับการดำเนินงาน บริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก ตามโครงการโรงเรียนดีใกล้บ้าน ซึ่งที่ประชุมมีความพึงพอใจต่อผลการดำเนินงานตามแผนระยะ 5 ปีแรก ที่จะช่วยประหยัดงบประมาณรัฐบาลในการดูแลและบำรุงรักษาโรงเรียนที่มีนักเรียนต่ำกว่า 120 คนที่ถูกยุบถึง 7,000 แห่ง เป็นจำนวน 5,000-6,000 ล้านบาท โดยขอให้เร่งดำเนินการให้เร็วขึ้น พร้อมจัดทำสรุปผลการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมในแต่ละปีให้เห็นชัดเจน เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดทำงบฯ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ของรัฐบาลนี้ และส่งต่อให้รัฐบาลใหม่สานต่องานได้อย่างชัดเจนในแต่ละเรื่อง
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ร่วมกันทำงานตลอดมา พร้อมแสดงความห่วงใยเกี่ยวกับปริมาณงานด้านการศึกษาที่มีมากและเป็นงานที่ต้องใช้เวลา เพราะส่วนหนึ่งต้องแก้ไขปัญหาเพื่อขึ้นจากหล่มเก่า ในขณะเดียวกันก็ต้องเตรียมแผนงานเพื่อเดินไปข้างหน้า จึงมอบให้กระทรวงศึกษาธิการหาวิธีสื่อสารเพื่อสร้างการรับรู้ให้กับสังคมและประชาชนให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ได้มีความเข้าใจและช่วยเป็นแรงเสริมขับเคลื่อนงานด้านการศึกษาต่อไป
นวรัตน์ รามสูต, บัลลังก์ โรหิตเสถียร: สรุป/รายงาน
ยุทธพงศ์ เลือกกลั่นดี: ถ่ายภาพ
21/11/2559