ครบรอบ 72 ปี วันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม 2560 ณ หอประชุมคุรุสภา สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา – นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานกรรมการคุรุสภา เป็นประธานพิธีจัดงานวันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ครบรอบ 72 ปี โดยมีนายสมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเลขาธิการคุรุสภา รวมทั้งคณะกรรมการคุรุสภา คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ คณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ และผู้สนับสนุนกิจการสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาเข้าร่วมงานกว่า 600 คน โดย ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลเจริญพุทธมนต์ และพิธีมอบของที่ระลึกผู้สนับสนุนกิจการ และมอบเข็มยกย่องเชิดชูเกียรติ
เมื่อเวลา 7.09 น. นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีบวงสรวงองค์เทพพระพฤหัสบดี, พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6, พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) และนายทวี บุณยเกตุ อดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
โอกาสนี้ รมว.ศึกษาธิการ ได้มอบสาร
เนื่องในโอกาสครบรอบ 72 ปี สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
เวลา 9.30 น. ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมช.ศึกษาธิการ ในฐานะกรรมการคุรุสภา เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลเจริญพุทธมนต์ โดยพระสงฆ์จำนวน 10 รูป พิธีมอบของที่ระลึกผู้สนับสนุนกิจการสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา จำนวน 144 คน มอบเข็มยกย่องเชิดชูเกียรติผู้เกษียณอายุราชการประจำปี 2559 จำนวน 6 คน พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีวันลา/มาสาย จำนวน 158 คน เพื่อเป็นการยกย่องขวัญและกำลังใจ
โอกาสนี้ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล กล่าวว่า วิชาชีพครูเป็นวิชาชีพชั้นสูงในในสังคมอารยะ หลายประเทศสงวนอาชีพครูไว้สำหรับบุคคลที่มีความรู้ ความดีงาม และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะ "ครู" ถือเป็นผู้ปิดทองหลังพระ เพราะนำพาความสำเร็จไปสู่ในตัวลูกศิษย์ ครูหลายท่านที่ตนไปได้ไปพบปะพูดคุย จะบอกว่าช่วงปิดเทอมใหญ่เป็นช่วงเวลาที่ใจหาย เพราะต้องจากลูกศิษย์เป็นเวลานานในช่วงปิดเทอม หรือจากลูกศิษย์ที่จบออกไป เมื่อเปิดเทอมในห้องเรียนเดิมก็จะเปลี่ยนเด็กรุ่นใหม่เข้ามา ครูจึงเปรียบเสมือนเรือจ้างที่ต้องพายพาเด็กขึ้นฝั่งไปด้วยความเสียสละ และพายกลับมาคนเดียว ดังนั้น การที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ตนเข้ามาดูแลกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับครู จึงถือเป็นเกียรติยศต่อตนเองและครอบครัวเป็นอย่างมาก และภูมิใจที่จะจบชีวิตราชการที่กระทรวงศึกษาธิการด้วยเกียรติยศอันยิ่งใหญ่แห่งนี้
เมื่อได้เข้ามาดูแลกระทรวงศึกษาธิการ จึงต้องการให้ทุกคน ทั้งครูบาอาจารย์ ผู้บริหาร นักเรียนนักศึกษาทุกคน ได้น้อมนำกระแสพระราชดำรัส รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 และเป็นไปตามพระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่ต้องการเห็นครูและปวงชนชาวไทยสืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ท่าน เพราะตลอดระยะเวลา 70 ปี ในรัชสมัยของพระองค์นั้น ทรงเหน็ดเหนื่อยพระวรกาย และทรงนำพาประเทศชาติผ่านพ้นสถานการณ์ต่าง ๆ มาได้มากมาย จึงขอให้ทุกคนน้อมนำพระบรมราโชวาท กระแสพระราชดำรัส แบบอย่างคุณงามความดี ความพอเพียง และความยั่งยืน ที่พระองค์ทรงพระราชทานไว้ ใส่เกล้าใส่กระหม่อมและน้อมนำไปปฏิบัติเพื่อถวายเป็นประราชกุศล เช่น การเปลี่ยนทัศนคติในการทำความดี ควรมุ่งมั่นที่จะทำความดีที่มาจากหัวใจ ไม่ใช่กระทำด้วยเพราะกฎหมายบังคับ ซึ่งจะไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของบุคคลผู้นั้น
นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญกับการดำเนินโครงการ "โรงเรียนคุณธรรม" ให้เกิดขึ้นกว่า 30,000 แห่งทั่วประเทศ ภายในปีการศึกษา 2560 จึงขอให้ความอนุเคราะห์สถานศึกษาให้ความสำคัญกับกิจกรรมและตัวชี้วัดของการเป็นโรงเรียนคุณธรรม ซึ่งจะได้ประกาศใช้ในเร็ว ๆ นี้ โดยโรงเรียนอาจจัดละครเกี่ยวกับการส่งเสริมคุณธรรรมจริยธรรมให้เด็กเล่นและรับชมกันบ่อย ๆ เด็กก็จะติดนิสัยที่ดี ๆ จากการแสดงนำไปประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้ แม้บางคนเลิกเล่นแต่ก็ยังคงจำบทละครนั้นได้ หรือการทำเวิร์คช็อปเรื่องศีลธรรมในห้องเรียนก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่ควรเป็นกลุ่มใหญ่มากจนเกินไป เพราะจะไม่เกิดมรรคเกิดผลเท่าที่ควร
จึงฝากให้ช่วยกันสร้าง ช่วยกันเสริมให้เกิดโรงเรียนคุณธรรม ซึ่งจะช่วยให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่งดงามในวันข้างหน้า ไม่ทุจริต ไม่เอารัดเอาเปรียบ ยึดมั่นคุณธรรมจริยธรรมแล้ว ยังเป็นการถวายเป็นพระกุศล เพื่อพระองค์จะยังคงประทับสถิตเสถียรอยู่ในดวงใจของคนไทยทั้งชาติตราบนานแสนนาน
บัลลังก์ โรหิตเสถียร: สรุป/รายงาน
จิรายุทธ คามขุนทด, ยุทธพงศ์ เลือกกลั่นดี, บัลลังก์ โรหิตเสถียร: ถ่ายภาพ
2/3/2560
Post Views: 475