นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมองค์กรหลัก เมื่อวันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน 2561 ณ ห้องประชุมราชวัลลภ โดยมี พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ และศาสตราจารย์คลินิก นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตลอดจนผู้บริหารองค์กรหลักและหน่วยงานในกำกับ เข้าร่วมประชุม โดยมีประเด็นสำคัญโดยสรุป ดังนี้
-
เลื่อนสอบ GAT/PAT
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ได้มีการหารือและรับทราบประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ คือ การเลื่อนการจัดทดสอบวัดความถนัดทางทั่วไป (GAT) และการทดสอบวัดความถนัดทางวิชาชีพ/วิชาการ (PAT) จากเดิมกำหนดสอบในวันที่ 23-26 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นวันที่ 16-19 กุมภาพันธ์ 2562 เพื่อไม่ให้ตรงกับวันเลือกตั้ง พร้อมทั้งมอบให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แจ้งไปยังโรงเรียนให้จัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรและสอบภาคปลายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 และเตรียมแนวทางในการจัดสอนเสริมเพื่อชดเชยเนื้อหาที่ต้องปิดเทอมเร็วขึ้น 1 สัปดาห์ โดยมีระยะเวลาในการเตรียมการกว่า 3 เดือน ก่อนถึงวันสอบ GAT/PAT ส่วนปฏิทินการสอบวิชาสามัญ 9 วิชา และ O-NET ยังเป็นไปตามกำหนดการเดิม
-
แนวทางแก้ไขปัญหาการยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังได้หารือเกี่ยวกับประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรื่อง กำหนดตำแหน่งของเจ้าพนักงานของรัฐซึ่งจะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 103 พ.ศ. 2561 ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการมีเจ้าพนักงานของรัฐที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงสถาบันอุดมศึกษาในสังกัดของรัฐและในกำกับของรัฐ ได้แก่ รองอธิการบดี รองเลขาธิการ ตำแหน่งเทียบเท่าที่มีชื่อเรียกอย่างอื่น ทำให้ประธานสภามหาวิทยาลัยและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจะยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง โดยขณะนี้นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี ประธาน ป.ป.ช. และทุกฝ่ายได้รับทราบประเด็นนี้ และกำลังหาแนวทางการแก้ไขและหาทางออกที่ดีที่สุดตามกฎหมาย จึงขอให้ชะลอการลาออกไว้ก่อน
-
ย้ำให้ข้าราชการวางตัวเป็นกลางทางการเมือง
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ภายหลังการประกาศพระราชกฤษฎีกาดำเนินการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งคาดว่าประมาณกลางเดือนธันวาคม 2561 ขอให้ข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการวางตัวเป็นกลางทางการเมืองอย่างเคร่งครัด และให้ระมัดระวังเรื่องการใช้อำนาจที่ไม่เป็นกลางทางการเมือง เพราะในการประชุม ครม. ได้ชี้แจงให้ทุกคนทราบอย่างชัดเจนว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการ ดังนั้นการกำหนดนโยบายหรือดำเนินการด้านงบประมาณ รวมทั้งการแต่งตั้งโยกย้ายก็สามารถดำเนินการได้เช่นเดียวกับรัฐบาลปกติ ทำให้ต้องระมัดระวังให้มาก เพราะอาจเกิดการใช้อำนาจที่ไม่เป็นกลางทางการเมืองได้
-
รมช.ศธ.กล่าวถึงนโยบายสำคัญช่วงที่ผ่านมา
พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ กล่าวในที่ประชุมเพิ่มเติมถึงความก้าวหน้าการดำเนินงานใน 2 ส่วนที่สำคัญ คือ
– การขับเคลื่อนการดำเนินงานบูรณาการด้านการศึกษาระดับภาคของกระทรวงศึกษาธิการปีงบประมาณ พ.ศ.2562 และการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรม ซึ่งได้ดำเนินการจัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว 5 ภาค คือ ภาคใต้ชายแดน ภาคตะวันออก ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคใต้ และจัดประชุมที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ ที่ศรีสะเกษ
– กระทรวงศึกษาธิการ จัดพิธีวางศิลาฤกษ์ (รากฐาน) อาคารสำนักงานศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2561 โดยได้รับเกียรติจาก พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธี ซึ่งถือเป็นการสร้างการรับรู้อย่างสำคัญให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มั่นใจว่ากระทรวงศึกษาธิการมีหน่วยงานที่ดูแลด้านการศึกษาในพื้นที่อย่างจริงจัง
ศาสตราจารย์คลินิก นพ.อุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ กล่าวถึงการปรับหลักสูตรครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ที่จะใช้เวลาเรียนจากเดิม 5 ปี เป็น 4 ปี ว่า เป็นการปรับหลักสูตรเพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและรองรับความเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ได้เจาะจงเฉพาะหลักสูตรครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์เท่านั้น เพราะที่ผ่านมาก็ได้มีการปรับปรุงหลักสูตรในระดับอุดมศึกษาหลายหลักสูตร เช่น หลักสูตรบัณฑิตพันธุ์ใหม่ เป็นต้น โดยประเด็นสำคัญไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนปีที่เรียน แต่อยู่ที่ผลลัพธ์ด้านการศึกษาด้วยการผลิตบัณฑิตที่มีสมรรถนะเป็นหลัก ทั้งนี้ ได้หารือร่วมกับมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนหลักสูตรครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ด้วยแล้ว