ศาสตราจารย์คลินิก นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุม อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเฉพาะกิจเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของสถานศึกษาที่เข้าร่วมโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา ครั้งที่ 1/2562
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า จากการที่กระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา (Partnership School) ร่วมกับภาคเอกชน ตลอดระยะเวลากว่า 1 ปีที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงาน และรับข้อคิดเห็นปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ จากพื้นที่และภาคเอกชน โดยเฉพาะการปรับปรุงกฎระเบียบต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานให้มีความคล่องตัว เกิดประสิทธิภาพการทำงานตามเป้าหมายที่วางไว้
ในส่วนของการบริหารงานบุคคล ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องได้รับการปรับปรุงอย่างเหมาะสม เพื่อผลักดันให้การบริหารงานโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯ มีความคล่องตัว สามารถยกระดับคุณภาพและผลสัมฤทธิ์ด้านการศึกษาได้อย่างเป็นรูปธรรม
โดยปัญหาที่พบส่วนใหญ่ เป็นเรื่องของการเกษียณอายุราชการหรือการขอย้าย ทำให้ขาดความต่อเนื่องในการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษา หลักเกณฑ์การคัดเลือกหรือโยกย้ายผู้บริหาร ยังไม่สอดคล้องกับบริบทของการปฏิบัติงานในโรงเรียนร่วมพัฒนา ตลอดจนองค์ประกอบและตัวชี้วัดของการขอมี/เลื่อนวิทยฐานะด้วย รวมทั้งการขาดอัตราข้าราชการครู เป็นต้น
สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ กระทรวงศึกษาธิการตระหนักถึงปัญหาดี และพยายามที่จะหาแนวทางแก้ไข โดยได้มอบให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (สำนักงาน ก.ค.ศ.) ตั้งคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) วิสามัญเฉพาะกิจเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของสถานศึกษา ที่เข้าร่วมโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา เพื่อดูแลระบบบริหารงานบุคคลให้เอื้อต่อการทำงานของสถานศึกษาในโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีผู้แทนภาครัฐและภาคเอกชนร่วมเป็นองค์ประกอบ เพื่อทำหน้าที่พิจารณา จัดทำ และพัฒนาร่างกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการบริหารงานบุคคล ส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างขวัญและกำลังใจการยกย่องเชิดชูเกียรติ รวมทั้งการจัดสวัสดิการและสิทธิประโยชน์เกื้อกูลแก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของสถานศึกษาที่เข้าร่วมโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา
โดยสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ที่จะต้องดำเนินการคือ การคัดเลือกผู้บริหารที่จะมาอยู่ในโรงเรียนร่วมพัฒนา ที่มีความเข้าใจและมุ่งมั่นตั้งใจในการพัฒนาและยกระดับโรงเรียนให้ดีขึ้น และการหาครูที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาที่โรงเรียนร่วมพัฒนาแต่ละแห่งต้องการ พร้อมทั้งกำหนดเกณฑ์การแต่งตั้ง โยกย้าย ตลอดจนการพัฒนาครูและความก้าวหน้าในสายอาชีพ ที่มีความเหมาะสมกับบริบทของโรงเรียนร่วมพัฒนา ซึ่งอาจจะมีหลักเกณฑ์บางส่วนที่แตกต่างไปจากโรงเรียนทั่วไป แต่ก็จะคงสิทธิประโยชน์และสวัสดิการต่าง ๆ สำหรับผู้บริหารและครูไว้เช่นเดิม