นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 11/2562 เมื่อวันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน 2562 โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช และนางกนกวรรณ วิลาวัลย์) เข้าร่วมประชุม ว่าที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่สำคัญ ดังนี้
อนุมัติกรอบอัตรากำลังของศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา 15 แห่ง 341 อัตรา
ที่ประชุมอนุมัติการกำหนดกรอบอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา สังกัดสำนักงาน กศน. จำนวน 15 แห่ง ในระยะเวลาเริ่มแรก รวมทั้งสิ้น 341 อัตรา ประกอบด้วย
- ผู้อำนวยการสถานศึกษา 15 อัตรา
- รองผู้อำนวยการสถานศึกษา 15 อัตรา
- ครู 180 อัตรา
- บุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2) 131 อัตรา
ทั้งนี้ เพื่อให้การบริหารจัดการและการเรียนการสอนของศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาทั้ง 15 แห่ง เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ส่งผลต่อคุณภาพของนักเรียนและนักศึกษาทั้งในระบบและนอกระบบ สนองตอบยุทธศาสตร์ชาติในการให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา สร้างโอกาส และความเสมอภาคทางการศึกษา อีกทั้งศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาหลายแห่งข้างต้น มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อควาเรียม พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ฯลฯ ส่งผลให้ภาระงานด้านธุรการเพิ่มมากขึ้นด้วย
อนุมัติอัตราว่างจากเกษียณ 738 อัตรา
ที่ประชุมอนุมัติการจัดสรรอัตราว่าง จากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และการจัดสรรแทนอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการ ด้วยการจ้างรูปแบบอื่น (พนักงานราชการ) เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 (ครั้งที่ 2) จำนวน 738 อัตรา ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ดังนี้
- สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 647 อัตรา
- สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 7 อัตรา
- สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ 74 อัตรา
- สำนักงาน กศน. 10 อัตรา
โดยให้ส่วนราชการดังกล่าว เกลี่ยอัตรกำลังที่ได้รับอนุมัติไปกำหนดตำแหน่งในหน่วยงานการศึกษา ตามหลักเกณฑ์ ดังนี้ 1) ให้กำหนดจำนวนและประเภทตำแหน่งตามเงื่อนไขที่ คปร. กำหนด โดยเคร่งครัด 2) ตำแหน่งที่กำหนดจะต้องมีจำนวนและประเภทตำแหน่งตามที่ ก.ค.ศ. อนุมัติ 3) ให้กำหนดตำแหน่งในหน่วยงานการศึกษาที่มีอัตรากำลังไม่เกินกรอบอัตรากำลัง หรือเกณฑ์มาตรฐานอัตรากำลังที่ ก.ค.ศ. กำหนด 4) ในการใช้อัตราที่ได้รับการจัดสรรคืนอัตรากำลังว่างจากผลการเกษียณอายุราชการเมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ให้ใช้อัตรากำลังได้ไม่ก่อนวันที่ ก.ค.ศ. มีมติอนุมัติ
ที่ประชุมยังได้เห็นชอบ ให้สงวนอัตราตำแหน่งว่างจากการเกษียณอายุราชการ ของตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2) (ประเภทวิชาการและทั่วไป) สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 1 อัตรา ไว้ก่อน เพื่อเสนอขอทบทวนไปยัง คปร.
นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบให้สำนักงาน ก.ค.ศ. เสนอเหตุผล ความจำเป็น เพื่อทบทวนหลักเกณฑ์การจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค.(2) ตามที่ คปร. กำหนด ในส่วนของตำแหน่ง ศึกษาธิการจังหวัด และรองศึกษาธิการจังหวัด ซึ่งเป็นตำแหน่งประเภทอำนวยการ ให้จัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการฯ คืนส่วนราชการเดิมทั้งหมดต่อ คปร. ต่อไปด้วย
เห็นชอบยกเว้นคุณสมบัติคัดเลือก รอง/ผอ.สถานศึกษา สพฐ. (ว8)
ที่ประชุมเห็นชอบให้ยกเว้นคุณสมบัติของผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสถานศึกษา และผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ (ว 8 /2562) โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
- ยกเว้นให้ผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือก ไม่ต้องผ่านการพัฒนาก่อนเข้าสู่การคัดเลือก แต่มีเงื่อนไขให้เพิ่มระยะเวลาในการพัฒนาก่อนการบรรจุและแต่งตั้ง โดยเนื้อหาของหลักสูตรต้องมีการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ และทักษะทางเทคโนโลยีดิจิทัล ด้วย
- ให้เพิ่มระยะเวลาในการประเมินสัมฤทธิผลในการปฏิบัติงานในหน้าที่เพื่อพัฒนาการศึกษา ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ที่ ก.ค.ศ. กำหนดจากระยะเวลา 6 เดือน เป็นระยะเวลา 1 ปี และกำหนดให้มีการประเมิน 2 ครั้ง ครั้งละ 6 เดือน โดยให้ทุกส่วนราชการทราบและถือปฏิบัติเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
ทั้งนี้ เพื่อให้ได้ผู้บริหารสถานศึกษาที่มีความรู้ ความสามารถ และศักยภาพในการเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา และนำนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงศึกษาธิการไปสู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อนุมัติแต่งตั้งอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ. สป. 5 ราย
ที่ประชุมอนุมัติการแต่งตั้งอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 5 ราย แทนผู้ดำรงตำแหน่งเดิมเพื่อความเหมาะสม และเพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งเดิมที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว ดังนี้
- นางรักขณา ตัณฑวุฑโฒ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
- นายดิศกุล เกษมสวัสดิ์ เลขาธิการ กศน.
- นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน
- นางสาวอุษณีย์ ธโนศวรรย์ เลขาธิการ ก.ค.ศ.
- นายทวีศักดิ์ เที่ยงธรรม ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน. จังหวัดนครราชสีมา
เห็นชอบให้สงวนอัตราตำแหน่งว่างครูผู้ช่วย รองรับทุน ม.ท.ศ.
ที่ประชุมเห็นชอบหลักการ ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สงวนอัตราตำแหน่งว่างและอัตราเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย เพื่อรองรับการบรรจุและแต่งตั้งนักเรียนทุนโครงการทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร (ม.ท.ศ.) ซึ่งเป็นนักเรียนทุนที่เรียนดี ประพฤติดี มีคุณธรรม และได้ผ่านการฝึกและการพัฒนาศักยภาพด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ที่จบการศึกษาแล้ว เข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย
โดยมุ่งเน้นในสาขาที่เป็นความต้องการของประเทศ และสาขาที่ขาดแคลน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด ในระยะเริ่มแรก จำนวน 5 อัตราต่อปี หรือตามจำนวนที่คณะกรรมการ ม.ท.ศ. มีมติ เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยเริ่มตั้งแต่ปีการศึกษา พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป
เห็นชอบกรอบอัตรากำลังครู สถาบันการอาชีวศึกษาภาคกลาง
ที่ประชุมเห็นชอบกำหนดกรอบอัตรากำลัง คณาจารย์ในสถาบันการอาชีวศึกษาภาคกลาง 4 สาขาวิชาเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ (ต่อเนื่อง) และสาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์ (ต่อเนื่อง) จำนวน 10 อัตรา เพื่อรองรับการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรี สายเทคโนโลยีหรือสายปฏิบัติการในสาขาวิชาดังกล่าว
ทั้งนี้ เพื่อให้สถาบันการอาชีวศึกษาภาคกลาง 4 สามารถจัดการเรียนการสอนระดับปริญญาตรี สายเทคโนโลยีหรือสายปฏิบัติการได้อย่างมีคุณภาพ เกิดประสิทธิผล นักศึกษามีความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติในสาขาวิชาเฉพาะทาง เพื่อรองรับความต้องการของสถานประกอบการ ตลาดแรงงานภาคอุตสาหกรรมและระบบโลจิสติกส์ในเขตพื้นที่แนวระเบียงเศรษฐกิจฝั่งตะวันตก (WEC) ต่อไป
อนุมัติการตัดโอนอัตราสายงานการสอน สพฐ.ที่ว่างอยู่ เป็นตำแหน่งครูผู้ช่วย กศน.-สอศ.
ที่ประชุมอนุมัติให้กำหนดตำแหน่งและอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยการตัดโอนอัตราเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่ว่างอยู่ กำหนดเป็นตำแหน่งครูผู้ช่วยในสถานศึกษา จำนวน 1,843 อัตรา สังกัดสำนักงาน กศน. (1,023 อัตรา) และสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (820 อัตรา)
โดยมีเงื่อนไขในการใช้ตำแหน่งเพื่อการบรรจุและแต่งตั้ง คือ ให้ได้รับเงินเดือนอันดับครูผู้ช่วย ตามวุฒิที่ ก.ค.ศ. กำหนด โดยอาศัยเบิกในอัตราเงินเดือนที่กำหนด และอัตราเงินเดือนที่กำหนดนี้ เมื่อนำไปใช้บรรจุและแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งครูผู้ช่วยแล้ว อัตราเงินเดือนที่เหลืออยู่ไม่สามารถนำไปใช้เป็นอัตราเงินเดือนสำหรับตำแหน่งว่าง ไม่มีเงิน หรือนำไปกำหนดเป็นตำแหน่งเพิ่มใหม่ได้
ทั้งนี้ ให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการนำเรื่องการตัดโอนอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน สังกัด สพฐ. ไปกำหนดเป็นตำแหน่งครูผู้ช่วย ในสถานศึกษาสังกัดสำนักงาน กศน. และสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เสนอคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค พิจารณาอนุมัติต่อไป
อนุมัติกรอบอัตรากำลัง รร.วิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย
ที่ประชุมอนุมัติการกำหนดตำแหน่ง กรอบอัตรากำลัง มาตรฐานตำแหน่ง ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2) ในโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย
เนื่องจากเห็นว่าเป็นสถานศึกษาที่จัดการศึกษาด้วยหลักสูตรเฉพาะสำหรับนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ในลักษณะโรงเรียนประจำ เพื่อเป็นการเตรียมกำลังคนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (STEM) ให้มีประสิทธิภาพ เป็นการยกระดับคุณภาพการศึกษา และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล ดังนี้
- อนุมัติให้กำหนดตำแหน่ง นักจัดการงานทั่วไป นักวิเคราะห์นโยบายและแผน นักทรัพยากรบุคคล นักวิชาการศึกษา นักวิชาการเงินและบัญชี นักวิชาการพัสดุ นักวิชาการคอมพิวเตอร์ นักวิเทศสัมพันธ์ นักวิชาการส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ นักเทคโนโลยีสารสนเทศ นักโภชนาการ พยาบาลวิชาชีพ นักจิตวิทยา นักแนะแนวการศึกษาและอาชีพ และนายช่างเทคนิค เป็นตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2) ในโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย
- อนุมัติให้กำหนดมาตรฐานตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2) เพิ่มเติม จำนวน 7 ตำแหน่ง ได้แก่ ตำแหน่งนักเทคโนโลยีสารสนเทศ นักวิเทศสัมพันธ์ นักโภชนาการ นักจิตวิทยา นักแนะแนวการศึกษาและอาชีพ นักวิชาการส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และนายช่างเทคนิค
- อนุมัติกรอบอัตรากำลังตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2) ในโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย จำนวน 12 แห่ง ๆ ละ 36 อัตรา รวม 432 อัตรา ในระยะแรก เห็นควรกำหนดระดับตำแหน่งเป็น 2 ระดับทุกตำแหน่ง คือ ระดับปฏิบัติการ/ชำนาญการ สำหรับตำแหน่งประเภทวิชาการ และระดับปฏิบัติงาน/ชำนาญงาน สำหรับตำแหน่งประเภททั่วไป และเมื่อภาระงานและปริมาณงานของตำแหน่งที่มีการเปลี่ยนแปลงไปในระดับที่สูงขึ้น รวมทั้งมีผู้มีคุณสมบัติที่จะดำรงตำแหน่งได้ สพฐ. อาจขออนุมัติ ก.ค.ศ. พิจารณาปรับปรุงการกำหนดตำแหน่งต่อไปได้ ทั้งนี้ การกำหนดตำแหน่งดังกล่าวต้องอยู่ภายใต้งบประมาณที่ได้รับ และไม่ทำให้งบประมาณรายจ่ายด้านบุคคลเพิ่มสูงขึ้น
- อนุมัติให้กำหนดแนวทางการกำหนดเลขที่ตำแหน่งฯ โดยกำหนดพยัญชนะสองตัวแรก เป็นรหัสพยัญชนะ “วภ” หมายถึง โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย และกำหนดเลขที่ตำแหน่ง จำนวน 4 หลัก ต่อจากรหัสพยัญชนะโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ตัวเลขหลักที่ 1 และ 2 (นับจากซ้าย) แทนรหัสจังหวัด และตัวเลขหลักที่ 3 และ 4 แทนเลขที่
อนุมัติย้าย ผอ.สพท.25 ราย
ที่ประชุมอนุมัติย้ายและแต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) จำนวน 25 ราย แบ่งเป็น ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) 17 ราย และผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 8 ราย ดังนี้
- นายสายัณห์ ไกรนรา ผอ.สพป.ภูเก็ต ให้ ดำรงตำแหน่ง ผอ. สพป.กระบี่
- นายพลชัย ชุมปัญญา ผอ.สพป.เลยเขต 2 ให้ ดำรงตำแหน่ง ผอ. สพป.นครพนมเขต 2
- นายประกิจ พุ่มพฤกษ์ ผอ.สพป.ปราจีนบุรี เขต 2 ให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.สพป.นครราชสีมา เขต 7
- นายนิตย์ พรมประสิทธิ์ ผอ.สพป.สุพรรณบุรี เขต 2 ให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.สพป.นครศรีธรรมราช เขต 1
- นายประหยัด สุขขี ผอ.สพป.ราชบุรี เขต 2 ให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.สพป.นครศรีธรรมราช เขต 2
- นายณรงค์ ศรีละมุล ผอ.สพป.กาญจนบุรี เขต 3 ให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.สพป.พัทลุง เขต 2
- นายอภิรักษ์ อิ่มจิตอนุสรณ์ ผอ.สพป.ลำปาง เขต 1 ให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.สพป.แพร่ เขต 1
- นายสุภาพ วงษ์สามาตย์ ผอ.สพป.ร้อยเอ็ด เขต 3 ให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.สพป.ร้อยเอ็ด เขต 1
- นายพิสุทธิ์ แสนเมือง ผอ.สพป.เลย เขต 3 ให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.สพป.ร้อยเอ็ด เขต 2
- นายมโน ชุนดี ผอ.สพป.อ่างทอง ให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.สพป.ลพบุรี เขต 2
- นายอัมพล หันทยุง ผอ.สพป.ตราด ให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.สพป.สระแก้ว เขต 2
- นายพรชัย โพคันโย ผอ.สพป.อุดรธานี เขต 2 ให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.สพป.อุดรธานี เขต 1
- นายบูรพา พรมสิงห์ ผอ.สพป.พระนครศรีอยุธยา เขต 2 ให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.สพป.อุดรธานี เขต 2
- นายวิรัตน์ ไกลแก้ว ผอ.สพป.นครศรีธรรมราช เขต 4 ให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.สพป.นครศรีธรรมราช เขต 3
- นายยงศักดิ์ เชาวน์วุฒิกุล ผอ.สพป.นครศรีธรรมราช เขต 3 ให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.สพป.นครศรีธรรมราช เขต 4
- นายนิวัฒน์ แก้วเพชร ผอ.สพป.ชัยภูมิ เขต 1 ให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.สพป.ชัยภูมิ เขต 3
- นายธนชน มุทาพร ผอ.สพป.ชัยภูมิ เขต 3 ให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.สพป.ชัยภูมิ เขต 1
- นายปราโมทย์ ภูมิพันธ์ ผอ.สพม.27 ให้ดำรงตำแหน่ง เป็น ผอ.สพม.23 ( จ.สกลนคร )
- นายอดุลย์ศักดิ์ บุญอเนก ผอ.สพม.26 ให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.สพม.27 ( จ.ร้อยเอ็ด)
- นายภัทธศาสน์ มาสกุล ผอ.สพม.28 ให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.สพม.29 ( จ.อุบลราชธานี-จ.อำนาจเจริญ)
- นายชูชาติ แก้วนอก ผอ.สพป.สมุทรปราการ เขต 1 ให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.สพม.28 ( จ.ศรีสะเกษ – จ.ยโสธร)
- นายชัยวัฒน์ ตั้งพงษ์ ผอ.สพม.24 ให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.สพม.30 (จ.ชัยภูมิ)
- นายทวี ทะนอก ผอ.สพป.สมุทรสาคร ให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.สพม.24 (จ.กาฬสินธุ์)
- น.ส.รัตติมา พานิชอนุรักษ์ ผอ.สพม.2 ให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.สพม.31 (จ.นครราชสีมา)
- นายสุชาติ กลัดสุข ผอ.สพป.อุทัยธานี เขต 1 ให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.สพม.2 ( กทม.)
———————————————————-
ศรายุทธ มาทัพ กลุ่มประชาสัมพันธ์และการเผยแพร่ สำนักงาน ก.ค.ศ.
บัลลังก์ โรหิตเสถียร / สรุป
สมประสงค์ ชาหารเวียง / ถ่ายภาพ