พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.)
· เห็นชอบร่างระเบียบฯ ช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนเอกชนเป็นเงินอุดหนุนรายบุคคล
ที่ประชุมให้ความเห็นชอบร่างระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการกำหนดมาตรการช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนเอกชนเป็นเงินอุดหนุนรายบุคคล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….
สาระสำคัญของร่างระเบียบฯ ดังกล่าว มีดังนี้
-
แก้ไขอัตราแนบท้ายระเบียบฯ เงินอุดหนุนสมทบเงินเดือนครู เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 ในระดับก่อนประถมศึกษาและประถมศึกษา เพิ่มขึ้น 264 บาท/คน/ปี และระดับมัธยมศึกษาตอนต้น/ตอนปลาย/ปวช. เพิ่มขึ้น 330 บาท/คน/ปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่
1 ธันวาคม 2557 เป็นต้นไป -
กรณีโรงเรียนเบิกเงินอุดหนุนผิดพลาดหรือโดยไม่มีสิทธิ ให้สำนักงาน
คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เรียกหรือหักเงิน จากโรงเรียน เพื่อส่งใช้คืนพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี แต่หากโรงเรียนไม่ชดใช้เงินอุดหนุนที่เบิกโดยผิดพลาดหรือโดยไม่มีสิทธิภายใน 30 วัน ให้ สช. ชะลอการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนรายบุคคลไว้ก่อนจนกว่าจะชำระหนี้ให้แล้วเสร็จ ภายใต้เงื่อนไข คือ ถ้าจำนวนเงินที่ชำระคืนไม่เกิน 1 ล้านบาท ให้ชำระเงินคืนทันทีในงวดเดียว แต่ถ้าจำนวนเงินที่ชำระคืนเกิน 1 ล้านบาท ให้ชำระเงินคืนภายใน 1 ปี โดยโรงเรียนต้องทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้เป็นลายลักษณ์อักษรด้วย
ตามที่ได้มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 8/2559 เรื่อง การบริหารจัดการรวมสถานศึกษาอาชีวศึกษาภาครัฐและภาคเอกชน ลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559 นั้น เพื่อให้การดำเนินงานของกองทุน
ทั้งนี้ ในระหว่างการพิจารณาบริหารจัดการกองทุนครั้งนี้ ให้กองทุนดังกล่าวพิจารณาอนุมัติการกู้ยืมเงินสำหรับโรงเรียนประเภทอาชีวศึกษาตามระบบเดิมไปพลางก่อน
-
เห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ฝ่ายกฎหมาย เพื่อทำหน้าที่พิจารณากลั่นกรองงานและให้ความเห็นชอบหรือข้อเสนอแนะเพื่อเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งพิจารณาร่างกฎกระทรวงและวินิจฉัยข้อกฎหมาย กฎ ระเบียบ ประกาศ และแนวปฏิบัติต่างๆ เกี่ยวกับกิจการโรงเรียนเอกชน โดยมีองค์ประกอบรวมทั้งสิ้น 13 คน โดยมีนายศิลปชัย หอมทรัพย์ อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานอนุกรรมการ
-
เห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเงินกู้ยืมกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบเพื่อประโยชน์ในการจัดการศึกษาสำหรับโรงเรียนในระบบ ในสัดส่วนผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ จำนวน 5 คน คือ
– นางสุพัชรินทร์ ไพวงศ์ ด้านการเงิน
– นายอาทร ทองสวัสดิ์ ด้านกฎหมาย
– นางดวงใจ ตระกูลช่าง ด้านผู้แทนโรงเรียน (รร.บีคอนเฮาส์แย้มสอาด จ.ปทุมธานี)
– นายกฤต เกียรติรุ่งวิไลกุล ด้านผู้แทนโรงเรียน (รร.อรรถวิทย์ กรุงเทพฯ)
– น.ส.สุภานี สินไชย ด้านผู้แทนโรงเรียน (รร.อนุบาลธนินทร กรุงเทพฯ) -
เห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเงินยืมกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบเพื่อประโยชน์ในการสงเคราะห์สำหรับโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามภาคใต้ ในสัดส่วนผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ จำนวน 4 คน คือ
– นางภัทรา ศิริชัย ด้านการเงิน
– นายสุดใจ จิระสมประเสริฐ ด้านกฎหมาย
– นายหมัดอาหลี จิสวัสดิ์ ด้านผู้แทนโรงเรียน (รร.สายบุรีอิสลามศึกษา จ.ปัตตานี)
– นายอซิซ สาเม๊าะ ด้าน ผู้แทนโรงเรียน (รร.จริยธรรมศึกษามูลนิธิ จ.สงขลา)
ที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินการของคณะทำงานศึกษาแนวทางการปรับปรุงสวัสดิการของกองทุนสงเคราะห์ ซึ่งมีปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธานคณะทำงาน, โดยมีนายมงคล เกษมสันต์ ณ อยุธยา เป็นคณะทำงานและเลขานุการ ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบผลการศึกษาแนวทางการจัดสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลจากกองทุนสงเคราะห์ให้มีสวัสดิการฯ มากกว่าวงเงิน 100,000 บาท/คน/ปี ตามที่ผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียนเอกชนเรียกร้อง
ซึ่งที่ประชุมคณะทำงาน ครั้งที่ 1/2559 เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2559 ได้มีมติเห็นชอบเลือกแนวทางการจัดสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล โดยมอบกองทุนสงเคราะห์ดำเนินการ ดังนี้
-
จัดทำฐานข้อมูลในการเบิกเงินสวัสดิการสมาชิกของกองทุนฯ ให้แล้วเสร็จ เพื่อนำมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลจัดสวัสดิการ
-
ให้กองทุนฯ เจรจาหาความร่วมมือกับหน่วยงานองค์กรอื่นๆ เพื่อพิจารณาแนวทางช่วยเหลือสมาชิกครูที่ป่วยด้วยโรคร้ายแรง 3 โรค คือ โรคไต โรคหัวใจ โรคมะเร็ง ที่มีการเบิกค่ารักษาพยาบาลเกินกว่า 100,000 บาท/ปี เช่น มูลนิธิโรคไต หัวใจ มะเร็ง ฯลฯ
-
ขอความร่วมมือกับโรงเรียนเอกชนเพื่อรณรงค์ส่งเสริมสุขภาพ
-
ส่งเสริมประสิทธิภาพเกี่ยวกับการให้บริการที่มีความพร้อมและรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงหน่วยงานที่เบิกให้กับสมาชิกในส่วนภูมิภาค
-
ให้กองทุนฯ ประชาสัมพันธ์ชี้แจงทำความเข้าใจกับสมาชิกครูเอกชน
บัลลังก์ โรหิตเสถียร
สรุป/รายงาน
9/6/2559