Home / ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 237/2559 ผลประชุม คกก.ส่งเสริมการศึกษาเอกชน 2/2559

ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 237/2559 ผลประชุม คกก.ส่งเสริมการศึกษาเอกชน 2/2559

DSC_0232 พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ครั้งที่ 2/2559 เมื่อวันพุธที่ 8 มิถุนายน 2559 ที่ห้องประชุมราชวัลลภ โดยมีประเด็นสำคัญสรุปดังนี้

· เห็นชอบร่างระเบียบฯ ช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนเอกชนเป็นเงินอุดหนุนรายบุคคล

ที่ประชุมให้ความเห็นชอบร่างระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการกำหนดมาตรการช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนเอกชนเป็นเงินอุดหนุนรายบุคคล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. โดยเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบเดิมซึ่งประกาศใช้เมื่อปี 2558 เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการในอัตราร้อยละ 4 เมื่อปี 2557  ประกอบกับมติรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2550 ได้อนุมัติหลักการให้การปรับเงินอุดหนุนรายบุคคลในส่วนของเงินอุดหนุนสมทบเงินเดือนครูในอัตราเดียวกันทุกครั้งที่มีการปรับเพิ่มเงินเดือนข้าราชการ

สาระสำคัญของร่างระเบียบฯ ดังกล่าว มีดังนี้

  • แก้ไขอัตราแนบท้ายระเบียบฯ เงินอุดหนุนสมทบเงินเดือนครู เพิ่มขึ้นร้อยละ 4  ในระดับก่อนประถมศึกษาและประถมศึกษา เพิ่มขึ้น 264 บาท/คน/ปี และระดับมัธยมศึกษาตอนต้น/ตอนปลาย/ปวช. เพิ่มขึ้น 330 บาท/คน/ปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2557 เป็นต้นไป

  • กรณีโรงเรียนเบิกเงินอุดหนุนผิดพลาดหรือโดยไม่มีสิทธิ ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เรียกหรือหักเงินจากโรงเรียน เพื่อส่งใช้คืนพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี แต่หากโรงเรียนไม่ชดใช้เงินอุดหนุนที่เบิกโดยผิดพลาดหรือโดยไม่มีสิทธิภายใน 30 วัน ให้ สช. ชะลอการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนรายบุคคลไว้ก่อนจนกว่าจะชำระหนี้ให้แล้วเสร็จ ภายใต้เงื่อนไข คือ ถ้าจำนวนเงินที่ชำระคืนไม่เกิน 1 ล้านบาท ให้ชำระเงินคืนทันทีในงวดเดียว แต่ถ้าจำนวนเงินที่ชำระคืนเกิน 1 ล้านบาท ให้ชำระเงินคืนภายใน 1 ปี โดยโรงเรียนต้องทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้เป็นลายลักษณ์อักษรด้วย


· เห็นชอบให้ตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบ กรณีการรวมสถานศึกษาอาชีวศึกษาภาครัฐและเอกชน

ตามที่ได้มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 8/2559 เรื่อง การบริหารจัดการรวมสถานศึกษาอาชีวศึกษาภาครัฐและภาคเอกชน ลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559 นั้น เพื่อให้การดำเนินงานของกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบ ในส่วนที่เกี่ยวกับการดำเนินงานของโรงเรียนในระบบประเภทอาชีวศึกษาเกิดความชัดเจนและเป็นไปด้วยความถูกต้อง

ที่ประชุมจึงมีมติให้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อพิจารณาแนวทางดำเนินการแบ่งแยกกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบ ให้สอดคล้องต่อการบริหารจัดการรวมสถานศึกษาอาชีวศึกษาภาครัฐและเอกชนตามคำสั่ง คสช. โดยมีนายมาโนช จุลสุคนธ์ ผู้แทนครูใน กช. เป็นประธานคณะทำงาน และมีคณะทำงานประกอบด้วยผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา, สช., ผู้แทนกองทุนฯ เดิม, ผู้แทนจากกระทรวงการคลัง, ผู้แทนจากกรมบัญชีกลาง เป็นต้น

ทั้งนี้ ในระหว่างการพิจารณาบริหารจัดการกองทุนครั้งนี้ ให้กองทุนดังกล่าวพิจารณาอนุมัติการกู้ยืมเงินสำหรับโรงเรียนประเภทอาชีวศึกษาตามระบบเดิมไปพลางก่อน


· เห็นชอบตั้งคณะอนุกรรมการฯ 3 ชุด ใน กช.

  • เห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ฝ่ายกฎหมาย เพื่อทำหน้าที่พิจารณากลั่นกรองงานและให้ความเห็นชอบหรือข้อเสนอแนะเพื่อเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งพิจารณาร่างกฎกระทรวงและวินิจฉัยข้อกฎหมาย กฎ ระเบียบ ประกาศ และแนวปฏิบัติต่างๆ เกี่ยวกับกิจการโรงเรียนเอกชน โดยมีองค์ประกอบรวมทั้งสิ้น 13 คน โดยมีนายศิลปชัย หอมทรัพย์ อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานอนุกรรมการ

  • เห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเงินกู้ยืมกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบเพื่อประโยชน์ในการจัดการศึกษาสำหรับโรงเรียนในระบบ ในสัดส่วนผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ จำนวน 5 คน คือ
         – นางสุพัชรินทร์ ไพวงศ์  ด้านการเงิน
         – นายอาทร ทองสวัสดิ์  ด้านกฎหมาย
         – นางดวงใจ ตระกูลช่าง  ด้านผู้แทนโรงเรียน (รร.บีคอนเฮาส์แย้มสอาด จ.ปทุมธานี)

         – นายกฤต เกียรติรุ่งวิไลกุล  ด้านผู้แทนโรงเรียน (รร.อรรถวิทย์ กรุงเทพฯ)
         – น.ส.สุภานี สินไชย  ด้านผู้แทนโรงเรียน (รร.อนุบาลธนินทร กรุงเทพฯ)

  • เห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเงินยืมกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบเพื่อประโยชน์ในการสงเคราะห์สำหรับโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามภาคใต้ ในสัดส่วนผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ จำนวน 4 คน คือ
         – นางภัทรา ศิริชัย  ด้านการเงิน
         – นายสุดใจ จิระสมประเสริฐ  ด้านกฎหมาย
         – นายหมัดอาหลี จิสวัสดิ์  ด้านผู้แทนโรงเรียน (รร.สายบุรีอิสลามศึกษา จ.ปัตตานี)
         – นายอซิซ สาเม๊าะ  ด้านผู้แทนโรงเรียน (รร.จริยธรรมศึกษามูลนิธิ จ.สงขลา)


· รับทราบความก้าวหน้าแนวทางการปรับปรุงสวัสดิการของกองทุนสงเคราะห์

ที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินการของคณะทำงานศึกษาแนวทางการปรับปรุงสวัสดิการของกองทุนสงเคราะห์ ซึ่งมีปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธานคณะทำงาน, โดยมีนายมงคล เกษมสันต์ ณ อยุธยา เป็นคณะทำงานและเลขานุการ ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบผลการศึกษาแนวทางการจัดสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลจากกองทุนสงเคราะห์ให้มีสวัสดิการฯ มากกว่าวงเงิน 100,000 บาท/คน/ปี ตามที่ผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียนเอกชนเรียกร้อง

ซึ่งที่ประชุมคณะทำงาน ครั้งที่ 1/2559 เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2559 ได้มีมติเห็นชอบเลือกแนวทางการจัดสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล โดยมอบกองทุนสงเคราะห์ดำเนินการ ดังนี้

  • จัดทำฐานข้อมูลในการเบิกเงินสวัสดิการสมาชิกของกองทุนฯ ให้แล้วเสร็จ เพื่อนำมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลจัดสวัสดิการ

  • ให้กองทุนฯ เจรจาหาความร่วมมือกับหน่วยงานองค์กรอื่นๆ เพื่อพิจารณาแนวทางช่วยเหลือสมาชิกครูที่ป่วยด้วยโรคร้ายแรง 3 โรค คือ โรคไต โรคหัวใจ โรคมะเร็ง ที่มีการเบิกค่ารักษาพยาบาลเกินกว่า 100,000 บาท/ปี เช่น มูลนิธิโรคไต หัวใจ มะเร็ง ฯลฯ

  • ขอความร่วมมือกับโรงเรียนเอกชนเพื่อรณรงค์ส่งเสริมสุขภาพ

  • ส่งเสริมประสิทธิภาพเกี่ยวกับการให้บริการที่มีความพร้อมและรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงหน่วยงานที่เบิกให้กับสมาชิกในส่วนภูมิภาค

  • ให้กองทุนฯ ประชาสัมพันธ์ชี้แจงทำความเข้าใจกับสมาชิกครูเอกชน

บัลลังก์ โรหิตเสถียร
สรุป/รายงาน

9/6/2559