Home / ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 393/2559 ครม.อนุมัติ พ.ร.บ.สถาบันภูมิราชธรรม

ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 393/2559 ครม.อนุมัติ พ.ร.บ.สถาบันภูมิราชธรรม

WU6A8069 

ศึกษาธิการ – พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันอังคารที่ 20 กันยายน 2559 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ คือ อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติสถาบันภูมิราชธรรม พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติสถาบันภูมิราชธรรม พ.ศ. …. และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป

นอกจากนี้ ได้เห็นชอบให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2554 (เรื่อง ร่างข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและแนวทางการจัดตั้งมหาวิทยาลัยของรัฐโดยการหลอมรวม ยุบรวม สถาบันอุดมศึกษา) ที่กำหนดให้การจัดตั้งมหาวิทยาลัยขึ้นใหม่ให้ใช้แนวทางการหลอรวม ยุบรวม สถาบันอุดมศึกษา

สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ

1. กำหนดให้มีการจัดตั้ง “สถาบันภูมิราชธรรม” เป็นนิติบุคคลมีฐานะเป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐ และอยู่ในอุปถัมภ์ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

2. กำหนดให้สถาบันเป็นสถาบันอุดมศึกษาทางวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง ก่อตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ มีวัตถุประสงค์ที่จะบุกเบิก แสวงหา และเป็นคลังความรู้ ให้การศึกษา ส่งเสริม ประยุกต์และพัฒนาวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง สร้างบัณฑิต วิจัย เป็นแหล่งรวมสติปัญญาและบริการทางวิชาการแก่สังคม รวมทั้งสืบสานทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม เพื่อความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนของสังคมและประเทศชาติฯ

3. กำหนดรายได้ของสถาบัน ได้แก่ เงินที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มอบให้เพื่อจัดตั้งกองทุนหรือมอบสมบทภายหลัง และรายได้หรือผลประโยชน์จากกองทุนดังกล่าว เงินอุดหนุนทั่วไปที่รัฐบาลจัดสรรให้เป็นรายปีเงินและทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้แก่สถาบัน เงินกองทุนที่สถาบันจัดตั้งขึ้น และรายได้หรือผลประโยชน์จาก
กองทุนดังกล่าว เป็นต้น

4. กำหนดให้สภาสถาบันประกอบด้วยนายกสภาสถาบัน กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิ และกรรมการ โดยตำแหน่ง สภาสถาบันมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสี่ปี

5. กำหนดให้มีกองทุนตั้งขึ้น โดยเงินที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มอบให้หรือมอบสมทบ

6. กำหนดให้อธิการบดีเป็นผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (มาตรา 48)

7. กำหนดให้รัฐมนตรีมีอำนาจหน้าที่กำกับและดูแลโดยทั่วไปซึ่งกิจการของสถาบัน ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสถาบันตามมาตรา 6 และให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลหรือมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวกับสถาบันเป็นการเฉพาะ


บัลลังก์ โรหิตเสถียร
สรุป/รายงาน
21/9/2559