พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย
การประชุมหารือครั้งนี้ มีอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอ อาทิ
รศ.ดร.สมบัติ คชสิทธิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ ในฐานะประธาน ทปอ.มรภ. กล่าวว่า การเข้าพบรัฐมนตรีในครั้งนี้เพื่อต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและรับฟังแนวทางนโยบายของนายกรัฐมนตรี และกระทรวงศึกษาธิการ ที่มุ่งเน้นการผลิตและพัฒนากำลังคนให้ตรงกับความต้องการของประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับ มรภ.ทั้ง 38 แห่งที่ให้ความสำคัญกับการผลิตครู ควบคู่ไปกับการผลิตบัณฑิตเพื่อพัฒนาท้องถิ่น รวมทั้งให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาการจัดการศึกษาในระดับต่างๆ ที่ส่งผลต่อคุณภาพของผู้เรียน เช่น ผลสอบ O-NET รวมทั้งคุณภาพบัณฑิตครูที่มีผลต่อการสอบบรรจุครูผู้ช่วย ซึ่งที่ผ่านมามีปัญหาสอบไม่ผ่านเกณฑ์บรรจุแต่งตั้งจำนวนมาก ทั้งยังได้ให้ความสำคัญกับการผลิตบัณฑิตครูที่เน้นให้มี "จิตวิญญาณ" ความเป็นครู และพัฒนาเทคนิคการสอนให้เป็นครูมืออาชีพ ตลอดจนจัดการศึกษาในท้องถิ่นที่สอดคล้องกับการพัฒนาทักษะการเรียนรู้
ด้านการพัฒนาครู ปัจจุบัน มรภ. ทุกแห่งทั่วประเทศมีศูนย์พัฒนาครู และศูนย์สะเต็มศึกษา เพื่อส่งเสริมพัฒนาให้ครูในพื้นที่มีความรู้ความสามารถด้านต่างๆ มากขึ้น
รศ.สมชาย วงศ์เกษม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม กล่าวว่า เห็นด้วยกับนโยบายของ รมว.ศึกษาธิการ ในการทบทวนหลักสูตรการผลิตครู เพราะเรื่องนี้เป็นหัวใจของการปฏิรูปการศึกษาที่ มรภ.พร้อมจะเดินหน้าให้ทุกสถาบันที่ผลิตครูได้มีเกณฑ์มาตรฐานการผลิตที่สูงและเป็นมาตรฐานเดียวกันอย่างแท้จริง ส่วนนโยบายการปฏิรูปการศึกษาและการบริหารราชการของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาคนั้น เห็นด้วยกับการใช้มาตรา 44 ในการแต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ในการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค
ผศ.ดร.ประโยชน์ คุปต์กาญจนากุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
ผศ.สนิท เหลืองบุตรนาค อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย กล่าวว่า ในฐานะที่เป็น กศจ.เลย พบปัญหาในการคัดเลือกและการคัดสรรครูผู้ช่วยโดยวิธีพิเศษ แต่เข้าใจในช่วงเปลี่ยนผ่านขณะนี้ที่ต้องดึงบัญชีที่ค้างไว้มาดำเนินการให้เสร็จสิ้นเพื่อไม่ให้ผู้ที่สอบขึ้นบัญชีไว้เสียสิทธิ์ แต่หลังจากนี้ต้องการให้ปรับปรุงระบบการสอบคัดเลือกให้เป็นไปในแนวทางเดียวกับ ก.พ. คือขึ้นบัญชีไว้ที่ส่วนกลางเป็นเวลา 2 ปี หากเขตพื้นที่การศึกษาใดต้องการใช้อัตราสาขาใดก็สามารถดึงเอามาใช้ได้เลย ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของ รมว.ศึกษาธิการด้วย ทั้งนี้การมีระบบเลือกสรรครูที่ดีมีประสิทธิภาพ เป็นประเด็นสำคัญที่จะทำให้ได้ครูที่เก่งและดีเข้ามาในระบบมากขึ้น
นอกจากนี้ ได้ฝากประเด็นทางการศึกษาที่ มรภ.ต้องช่วยกันคิดและวางแผนดำเนินการขับเคลื่อนร่วมกัน คือ การจัดการศึกษาในระดับอนุบาล, การบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก ซึ่งต้องให้สังคมเห็นด้วยว่าหากโรงเรียนขนาดเล็กมากๆ อาทิ โรงเรียนที่มีครู 1-3 คน หากจำเป็นต้องมีการควบรวม ก็จะทำให้คุณภาพเกิดขึ้นโดยตรงต่อตัวนักเรียนเอง
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวฝากด้วยว่า ในการแก้ไขปัญหาการศึกษาในสภาวะวิกฤต ผู้คนในองค์กรนั้นๆ ต้องเข้าใจปัญหาเช่นเดียวกันก่อน ส่วนตัวเมื่อเข้ามาทำงานก็เช่นกัน พยายามแก้ไขปัญหาทางการศึกษาที่พบ ซึ่งจะให้ผู้คนในองค์กรยอมรับร่วมกันก่อน และจะไม่ทำอะไรซุกไว้ใต้พรม ซึ่งอาจจะมีมาตรา 44 เกี่ยวกับการศึกษาตามออกมาอีก เพื่อสำทับแนวปฏิบัติต่างๆ ให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น
ยุทธพงศ์ เลือกกลั่นดี : ถ่ายภาพ