เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2559 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งศาสตราจารย์พิเศษ 2 ราย และแต่งตั้งนายกสภา-กรรมการสภามหาวิทยาลัยต่าง ๆ
ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งศาสตราจารย์พิเศษ จำนวน 2 ราย
1. นายจีรศักดิ์ นพคุณ อาจารย์พิเศษ สังกัดคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ดํารงตําแหน่ง ศาสตราจารย์พิเศษ ในสาขาวิชาชีววิทยาช่องปาก สังกัดคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2558
2. นายวรรณชัย บุญบํารุง อาจารย์พิเศษ สังกัดคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ดํารงตําแหน่ง ศาสตราจารย์พิเศษ ในสาขาวิชากฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง สังกัดคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2558
รายละเอียดเพิ่มเติม
แต่งตั้งนายประเสริฐ ชิตพงศ์ เป็นนายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
ตามที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายพีระศักดิ์ จันทร์ประทีป ให้ดำรงตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ต่อไปอีกวาระหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2556 ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2556 นั้น
เนื่องจาก นายพีระศักดิ์ จันทร์ประทีป ได้ดำรงตำแหน่งมาครบกำหนดตามวาระแล้ว และที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ครั้งที่ 139-4/2559 เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2559 ได้มีมติเห็นชอบให้เสนอขอพระราชทานโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายประเสริฐ ชิตพงศ์ ดำรงตำแหน่ง นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย และได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งต่อไปแล้ว
บัดนี้ ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งบุคคลดังกล่าว ให้ดำรงตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม 2559
รายละเอียดเพิ่มเติม
แต่งตั้งกรรมการสภามหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ตามที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายอภินันท์ โปษยานนท์ ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2558 ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2558 นั้น เนื่องจาก นายอภินันท์ โปษยานนท์ ได้ขอลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว และที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยมหาสารคาม ครั้งที่ 2/2559 เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 ได้มีมติเห็นชอบให้เสนอขอพระราชทานโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง นายจรัล เล็งวิทยา ดำรงตำแหน่งกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิของมหาวิทยาลัยมหาสารคามแทน และได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งต่อไปแล้ว
บัดนี้ ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งบุคคลดังกล่าว ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม 2559
รายละเอียดเพิ่มเติม
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวเพิ่มเติมถึงคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 39/2559 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2559 เรื่อง การจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษาว่า เนื่องจากสถาบันอุดมศึกษาบางแห่งเปิดการสอนและจัดการศึกษาทั้งในและนอกสถานที่ตั้ง โดยใช้หลักสูตรที่ไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งสภาสถาบันอุดมศึกษาแห่งนั้นไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสภาสถาบันอุดมศึกษาบางแห่งอาศัยอำนาจและช่องว่างทางกฎหมายดำเนินการในลักษณะที่ส่อเจตนาแสวงหาประโยชน์ส่วนตน หรือเพื่อให้คงอยู่ในตำแหน่งต่อไป มีการกลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้าม จนกระทั่งเกิดปัญหาร้องเรียนและฟ้องร้องทางคดีเป็นจำนวนมาก ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา โดยคำสั่งดังกล่าวได้ดำเนินการแก่มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) สุรินทร์ และมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ โดยทันทีด้วย
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2559 รมว.ศึกษาธิการ ได้ลงนามคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ที่ สกอ. 497/2559 เรื่อง ให้ผู้ดำรงตำแหน่งพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่และแต่งตั้งบุคคลให้ปฏิบัติหน้าที่ใน มรภ.สุรินทร์ ดังนี้ ให้ผู้ดำรงตำแหน่งนายกสภา มรภ.สุรินทร์ และกรรมการสภา มรภ.สุรินทร์ ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในวันที่คำสั่งนี้บังคับใช้พ้นจากตำแหน่งหน้าที่ ให้ผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีหรือรักษาการแทนอธิการบดี และรองอธิการบดี มรภ.สุรินทร์ ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในวันที่คำสั่งนี้มีผลบังคับใช้ พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมกันนี้ ได้แต่งตั้งคณะบุคคลปฏิบัติหน้าที่แทนสภา มรภ.สุรินทร์ ดังนี้ นายถนอม อินทรกำเนิด เป็นประธานกรรมการ, กรรมการประกอบด้วย รศ.อานนท์ เที่ยงตรง, รศ.ศศิวิมล มีอำพล, ผศ.จรูญ ถาวรจักร, นายชวลิต หมื่นนุช, นายอภิมุข สุขประสิทธิ์, รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เป็นกรรมการและเลขานุการ, เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ, เจ้าหน้าที่ สกอ. เป็นผู้ช่วยเลขานุการ โดยให้คณะบุคคลเหล่านี้มีอำนาจและหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่สภา มรภ.สุรินทร์ ตาม พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ.2547 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง จัดระเบียบและแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลใน มรภ.สุรินทร์ ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 39/2559 เรื่อง การจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา และแต่งตั้ง ผศ.จรูญ ถาวรจักร ปฏิบัติหน้าที่อธิการบดี มรภ.สุรินทร์
นอกจากนี้ ได้ลงนามคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ที่ สกอ. 498/2559 เรื่อง ให้ผู้ดำรงตำแหน่งพ้นจากตำแหน่งหน้าที่และแต่งตั้งบุคคลให้ปฏิบัติหน้าที่ใน มรภ.ชัยภูมิ โดยให้ผู้ดำรงตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการสภา มรภ.ชัยภูมิ และให้ผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีหรือผู้รักษาราชการแทนอธิการบดี และรองอธิการบดี มรภ.ชัยภูมิ ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในวันที่คำสั่งนี้ใช้บังคับ พ้นจากตำแหน่งหน้าที่ พร้อมกันนี้ได้แต่งตั้งคณะบุคคลปฏิบัติหน้าที่แทนสภา มรภ.ชัยภูมิ ดังนี้ รศ.เชิดชัย โชครัตนชัย เป็นประธานกรรมการ, กรรมการประกอบด้วย พล.ต.อ.ชาญวุฒิ วัชรพุกก์, รศ.ไทย ทิพย์สุวรรณกุล, รศ.สุภาว์ จุลนาพันธุ์, นายสว่าง ภู่พัฒน์วิบูลย์, รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เป็นกรรมการและเลขานุการ, เจ้าหน้าที่ สกอ. เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ และเจ้าหน้าที่ สกอ. เป็นผู้ช่วยเลขานุการ โดยให้คณะบุคคลดังกล่าวมีอำนาจและหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่สภา มรภ.ชัยภูมิ ตาม พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ.2547 และออกกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จัดระเบียบและแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลใน มรภ.ชัยภูมิ ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 39/2559 เรื่อง การจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา และแต่งตั้ง ผศ.เฉลย ภูมิพันธุ์ ปฏิบัติหน้าที่อธิการบดี มรภ.ชัยภูมิ
ทั้งนี้ ให้ผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีหรือผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีทั้ง 2 มหาวิทยาลัยที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในวันที่คำสั่งนี้บังคับและพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ตามคำสั่งนี้ ส่งมอบงานในหน้าที่ บัญชี รายงานทางการเงินและทรัพย์สินให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่อธิการบดีตามคำสั่งนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 3 วันทำการ นับแต่วันที่คำสั่งนี้มีผลบังคับใช้คือวันที่ 21 กรกฎาคม 2559
ต่อมา เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2559 ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนกรณีที่กลุ่มบัณฑิตหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต (หลักสูตร 5 ปี) โครงการจัดการศึกษาเพื่อปวงชน (กศ.ปช.) รุ่นที่ 15 มรภ.นครราชสีมา ประมาณ 300 คน จาก 7 สาขาวิชาเอก ได้แก่ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ สังคมศาสตร์ ปฐมวัย ภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์ทั่วไป และพลศึกษา ได้ยื่นหนังสือเพื่อขอให้กระทรวงศึกษาธิการเยียวยา กรณีที่จบการศึกษาตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม 2559 แต่ไม่สามารถรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูได้ โดย มรภ.นครราชสีมา ให้เหตุผลว่าคุรุสภาไม่รับรองหลักสูตร ซึ่งเท่าที่ได้รับรายงานยังไม่ทราบเหตุผลว่าเหตุใดมหาวิทยาลัยจึงดำเนินการเช่นนั้น จึงต้องมาดูกันต่อไปว่า จะดูแลนักศึกษาได้อย่างไร ในเมื่อเรียนจบครบตามหลักสูตรแล้ว
อย่างไรก็ตาม จากการหารือกับนายชัยยศ อิ่มสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา ทราบว่า คุรุสภาจะต้องนำหลักสูตรมาเทียบเคียงเพื่อเทียบโอนความรู้ของนักศึกษา ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 2,700 บาท ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าค่าใช้จ่ายส่วนนี้มหาวิทยาลัยจะต้องรับผิดชอบ และสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้มองเห็นว่าการที่ขออนุมัติใช้อำนาจมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 ทำให้สามารถเข้าไปดูแลสถาบันอุดมศึกษาได้มากขึ้น ซึ่งกรณีนี้ก็ต้องดูว่า มรภ.นครราชสีมา จะรับผิดชอบอย่างไร เพราะการที่มหาวิทยาลัยเอาเด็กเป็นตัวประกันแบบนี้ ทำไม่ถูกต้อง
อรพรรณ ฤทธิ์มั่น
บัลลังก์ โรหิตเสถียร
สรุป/รายงาน
23/7/2559
ขอบคุณ : เดลินิวส์ (ประเด็นสัมภาษณ์ มรภ.นครราชสีมา)
Post Views: 321